นิสิตมมส.เรียกร้องกองอาคารและสถานที่เหตุนกพิราบสร้างความเดือดร้อนภายในมหาวิทยาลัย ด้านกองอาคารแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังมีผลกระทบอื่นตามมา
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ออกมาเรียกร้องต่อกองอาคารและสถานที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคามถึงปัญหาที่ฝูงนกพิราบได้สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายโดยฝูงนกพิราบได้ขับถ่ายมูลเรี่ยราดส่งกลิ่นเหม็นและส่งเสียงดังรบกวน ให้แก่นิสิตและบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคามบริเวณหน้าอาคารบริการกลาง/พลาซ่าและหอใน

นางสาวบุญฑริกา บุญศรี นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ให้สัมภาษณ์ว่า “บริเวณตลาดน้อยและหอในมีฝูงนกพิราบได้ถ่ายมูลเรี่ยราดและส่งกลิ่นเหม็นในบริเวณนั้นและบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังถ่ายมูลใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้ของนิสิตที่อาศัยบริเวณหอใน และฝูงนกพิราบยังทำรังในบริเวณหอใน ตอนเย็นมักจะส่งเสียงดังรบกวน ส่งผลให้อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องจนต้องออกไปอ่านข้างนอกเพราะไม่มีสมาธิ แม้ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้เห็นถึงปัญหาและเข้ามาติดตาข่ายป้องกันไม่ให้นกพิราบเข้ามาทำรัง แต่ก็ยังมีเรื่องเสียงดังของนกพิราบ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประชุมพร เลาห์ประเสิริฐ อาจารย์อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “นกพิราบอันตรายมาก เพราะในตัวของนกพิราบมีเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่อยู่ในมูลและตัวของนกพิราบ ซึ่งเป็นพาหะที่นำโณงต่าง ๆ มาสู่คนได้ ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกันตัวจากนกพิราบ”
ผศ.ดร.ประชุมพรกล่าวว่า โรคที่เกิดจากนกพิราบมีหลายโรค ได้แก่ โรคไข้หวัดนก โรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบ โรคปอดอักเสบ และโรคคริปโตคอกโคสิส หากเราได้สัมผัสนกพิราบโดยตรงหรืออาจจะโดนจากสสารคัดหลั่งของนกพิราบ
“วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับนกโดยตรง ถ้าเกิดเลี่ยงไม่ได้หรือสุดวิสัยต้องล้างมือให้สะอาด และหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่นกพิราบเข้ามาอยู่ และหลีกเลี่ยงการสูดดมกลิ่นมูลของนกพิราบให้มากที่สุดค่ะ” ผศ.ดรประชุมพรกล่าว
เรียบเรียงโดย : นาราภัทร กองเพชร ภาพถ่ายโดย : กฤตภาส อาจรักษา