กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) กำลังเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายให้ทุกคณะในมหาวิทยาลัยมีการให้คำปรึกษาแก่นิสิต เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของปัญหาสุขภาพจิตที่นิสิตต้องเผชิญและหาทางออกไม่ได้ เป็นเสมือนผู้ให้คำปรึกษาแนะแนวทางออก เพื่อให้นิสิตมีสุขภาพชีวิตที่ดี แม้ในเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยยังคงทำตามนโยบายได้อย่างไม่ทั่วถึง มีเพียงคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามกำลังความสามารถที่มีอยู่ ซึ่งการขับเคลื่อนนโยบายการให้คำปรึกษาแก่นิสิต กองกิจการมองเห็นโอกาสและเส้นทางที่จะเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้
นางสาวอนงค์ภานุช ปะนะทังภิรวิทย์ นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ ชำนาญการมมส. กล่าวว่า ในเรื่องของนโยบายการให้คำปรึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีนักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ เพื่อที่จะป้องกันในการที่จะไม่ให้เกิดปัญหาในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของชีวิตส่วนตัวหรือสังคมต่างๆ เวลาที่นิสิตมีปัญหาจะต้องมีนักวิชาชีพหรือนักแนะแนวในการที่จะต้องให้คำปรึกษากับตัวนิสิต ถ้าคนที่มาทำงานในด้านนี้จะต้องจบการศึกษาในด้านจิตวิทยามาโดยตรง
“เวลาที่นิสิตเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ถ้าคนที่สุขภาพจิตไม่ดี ก็ไม่สามารถที่จะเรียนให้สำเร็จการศึกษาได้ บางครั้งในเรื่องของความเบี่ยงเบน เวลาที่มาอยู่ในมหาวิทยาลัย เมื่อก่อนเราอาจจะอยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่ที่ดูแลมา แต่เมื่อมาเจอเพื่อน หรือสังคมที่หลากหลาย นิสิตอาจจะปรับตัวไม่ได้ เรามองว่าตรงนี้จะทำอย่างไรให้แต่ละบุคคลปรับตัวเข้ากับสังคมให้เข้าใจตัวเอง ช่วยเขาให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้” นางสาวอนงค์ภานุชกล่าว
นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ กล่าวต่อว่า ห้องให้คำปรึกษานิสิตที่กองกิจการมีมาตั้งแต่ปี 2550 แต่ในเรื่องของการขับเคลื่อนกลไกให้คำปรึกษา เริ่มมาอย่างจริงจังเมื่อประมาณปี 2558 เพราะเริ่มจากทางผู้บริหารเล็งเห็นในเรื่องของการที่จะช่วยเหลือนิสิต โดยให้ส่วนกลางคือกองกิจการนิสิตประสานงานกับทางคณะต่างๆ ที่จะต้องดูแลและให้คำปรึกษาแก่นิสิตในคณะ ช่วยกันสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการให้คำปรึกษาร่วมกัน
“สำหรับกองกิจการนิสิตจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงกับทุกคณะ เราจะมีการจัดทำตารางปฏิทินการประชุม 3 เดือนต่อครั้ง ในการที่จะให้แต่ละคณะหน่วยงานมารายงานการให้คำปรึกษานิสิตของตัวเองว่าเป็นอย่างไร รวมถึงการช่วยกันปรึกษาหารือว่าเราจะต้องร่วมมือดูแลนิสิตร่วมกันอย่างไร เป้าหมายหลักของนโยบายคือการที่จะเชื่อมโยงทุกคณะหน่วยงานให้มีการเติมเต็มซึ่งกันและกันสุดท้ายคืออยากให้ทุกคณะได้มีห้องให้คำปรึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาที่นิสิตในคณะเข้ามาปรึกษา” นางสาวอนงค์ภานุช กล่าว
นางสาวอนงค์ภานุช กล่าวต่อว่า นอกจากนโยบายแล้ว แต่ละคณะควรมีการจัดคนให้เหมาะสมในการที่จะมาเป็นผู้ให้คำปรึกษา ต้องมีคุณสมบัติและทัศนคติที่ดี รวมไปถึงความรู้ความสามารถในด้านจิตวิทยาด้วย ทั้งนี้ผู้บริหารแต่ละคณะจะต้องให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ตนมองว่าเป็นของคู่กัน ที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากอีกทั้งงานด้านนี้จะต้องทำด้วยใจเป็นสำคัญ
“การที่จัดทำนโยบายนี้ ส่งผลให้นิสิตสามารถเข้าถึงบริการได้ง่าย เป็นการสร้างเครือข่ายที่จะได้ดูแลสุขภาพนิสิตได้อย่างทั่วถึงและช่วยเหลือได้อย่างถูกจุดสำหรับนิสิตที่กำลังประสบปัญหา ไม่มีทางออก เรามองว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ เพียงแค่เข้ามาปรึกษาที่กองกิจการนิสิต เราจะประสานต่อไปตามหน่วยงานต่างๆ และอยากให้เข้าใจว่าทางมหาวิทยาลัยมีระบบในเรื่องของการดูแลนิสิต เพียงแค่นิสิตเข้ามาปรึกษา กองกิจการก็พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่นิสิตการมาพบนักจิตวิทยานั้นก็เพื่อจะได้ช่วยในเรื่องของคนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน จะได้ให้สามารถเข้าใจตัวเอง และเรียนรู้ในการเผชิญปัญหาอย่างสร้างสรรค์” นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพกล่าวทิ้งท้าย
ให้บริการฮอตไลน์ 24 ชั่วโมง ที่เบอร์ 085-0100043 , 085-0104544 ตลอด 24 ชั่วโมง ดำเนินงานตามสโลแกน จะสุขจะเศร้า เราเป็นเพื่อนคุณ