จากเรือนไม้เก่าจากรุ่นสู่รุ่น จากบ้านสู่ร้านกาแฟ Rak An Coffee ร้านกาแฟสไตล์บ้านเรือนไม้ 2 ชั้น ที่ได้รับการอนุรักษ์ทั้งความเป็นเรือนไม้และโครงสร้างเดิมของบ้านที่ถูกผสมผสานเพิ่มเข้ากับความเป็นสมัยใหม่เข้าไปได้อย่างลงตัว เมื่อได้ก้าวขาเข้ามาในร้านก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นอายของเรือนเก่าไม้แบบจีนที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเมนูกาแฟมากมายที่สายกาแฟห้ามพลาด !
รักอันคอฟฟี่ บ้านเรือนไม้อายุกว่า 65 ปี เคยเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามา ในเมืองไทยเพื่อทำการค้าขายใน ‘ย่านตลาดน้อย’ เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยบ้านหลังนี้ได้สืบทอดต่อกันมาร่วม 3 รุ่นจนมาถึงรุ่นของ “คุณโต้ง ประกิจ และคุณเก๋รศ.ดร.กีรติพร จูตะวิริยะ” ได้มีการปรับเปลี่ยนมาทำเป็นร้านรัก อันคอฟฟี่
เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘พี่เก๋’ เจ้าของที่สถานที่แห่งนี้จึงได้ถามถึงเหตุผลทำไมพี่เก๋จึงได้เปลี่ยนจากบ้านมาเป็นร้านกาแฟ พี่เก๋ทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่เล่าความเป็นมาของร้านนี้ให้เราฟังด้วยความยินดีว่า “ร้านนี้เป็น บ้านเก่าของอากงแฟน อากงเป็นคนจีนที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่ขอนแก่น ตอนแรกอยู่บ้านไผ่จากนั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองขอนแก่น แล้วมาสร้างธุรกิจในตัวเมือง ธุรกิจแรกที่ทำคือเร้านทองที่ถนนศรีจันทร์และร้านขายยารักอันโอสถ จากนั้นสร้างบ้านให้กับเครือญาติที่มาจากเมืองจีนอยู่ด้านหลัง ก็ทำเป็นโรงเลี้ยงหมูแต่ว่าตอนนี้เรารื้อออกไปแล้ว แล้วตัวบ้านก็มีญาติอยู่กันมา 3 รุ่น จนตอนนี้เครือญาติแยกย้ายกันออกไป จึงได้ปิดไว้ไม่ได้ทำอะไร แต่คอยบูรณะบ้านหลังนี้ตลอดมา”
“จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตรงจั่วบ้านโดนปลวกกัดกินไป เลยต้องเปลี่ยนหลังคาบ้านใหม่ทั้งหมด คือการบูรณะบ้านเก่ามี ค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ว่านี่เป็นบ้านที่เราอยากเก็บเอาไว้เพราะถือว่าเป็นโซนบ้านเก่าในเมืองขอนแก่น บริเวณนี้จะเป็น โซนที่คนจีนย้ายเข้ามาอยู่ เราอยากเก็บเอาไว้คู่เมืองขอนแก่น พอบูรณะ 2 ปีแล้วเสร็จ เราก็คอยเข้ามาทำนั่นทำนี่ ตลอด มีค่าใช้จ่ายกับการบูรณะ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเราก็ตกผลึกว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างให้บ้านเราอยู่ได้เราอยู่ ได้คือให้บ้านกลับมามีชีวิตอีกครั้งและให้คนมาเห็นบ้านเราอีกครั้ง” พี่เก๋กล่าว
ระหว่างนั้นได้พูดคุยกับพี่เก๋เกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของร้านว่ามีการปรับปรุงยากง่ายอย่างไรบ้าง พี่เก๋อธิบายให้ฟังว่า ในการปรับเปลี่ยนจากบ้านไม้เก่า สู้รักอันคอฟฟี่ มีรายละเอียดเยอะมาก เนื่องจากเป็นบ้านไม้และใน การสร้างบ้านของคนจีนในสมัยนั้นมีความละเอียด ใส่ใจ และมีความหมายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไม้ต่าง ๆ การประกอบไม้ของตัวบ้าน หรือแม้แต่การปิดแผ่นทองไว้ที่เสาของบ้านทุกต้น และพี่เก๋ได้ทำการคุยกับสถาปนิกในการที่จะ ปรับตัวบ้านให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แต่จะคงความเป็นบ้านไม้เดิมเอาไว้ทำให้เป็นร้านกาแฟแนวอนุรักษ์แบบร่วมสมัยและภายในทุกที่ของบ้านนั้นล้วนมีความหมายอย่างมาก ในเรื่องรายละเอียดของตัวบ้าน พี่เก๋มีการทำ คิวอาร์โค้ดติดไว้เพื่อที่จะอธิบายของที่มาที่ไปเอาไว้สำหรับคนที่สนใจ สามารถแสกนแล้วเข้าไปชมคลิปเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ได้เลย
ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่นั้นเอง เราได้เอ่ยปากถามถึงเรื่องกาแฟของที่ร้านที่มีกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วทั้งร้าน พี่เก๋จึงตอบกลับมาว่า “พี่กับแฟน เป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว คิดว่า ถ้าเกิดเราจะทำร้านกาแฟ เราต้องให้ความสำคัญกับเมล็ดกาแฟค่ะ ถ้าเกิดเมล็ดกาแฟเราดีองค์ประกอบทุกอย่างดีจะทำให้การกินกาแฟหรือการเสพกาแฟนั้นมีอรรถรสมากขึ้น พี่จึงใส่ใจเรื่องกาแฟมาก”
ซิกเนเจอร์ของทางร้านคือเมนูกาแฟ เมล็ดกาแฟของร้านรักอันพี่เก๋บอกกับเราว่านำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ คือ กาแฟบราซิลคั่วกลางและกาแฟลาวคั่วเข้ม ถ้าชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ เราเองเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว จึงสั่งคาปูชิโน่มาลอง พอลองชิมแล้วรู้สึกถูกใจมาก รสชาติกลมกล่อม ไม่เข้มเกินไป ไม่หวานเกินไป ดื่มง่ายแบบที่สาย กาแฟต้องมาลอง แถมในร้านยังมีเมนูกาแฟน้ำผลไม้ใหม่ที่หลายคนต้องห้ามพลาด คือ เมนู Orange Coffee และ Coconut Coffee ถ้ามีโอกาสได้ไปครั้งหน้าเราเองก็อยากจะลองเมนูนี้เหมือนกันค่ะ แต่ใช่ว่าจะมีแค่เมนูกาแฟที่ น่าสนใจ เมนูอื่น ๆ ก็มีค่ะ แล้วก็เบเกอร์รี่ต่าง ๆ เช่น เค้ก ขนม ขอบอกเลยค่ะว่าพี่เก๋ใส่ใจกับวัตถุดิบที่เลือกใช้มาก เบเกอร์รี่และขนมทุกอย่างที่สายรักสุขภาพต้องถูกใจอย่างแน่นอน “เดี๋ยวนี้การกินกาแฟไม่ได้มีแค่รสชาติของกาแฟ แต่บรรยากาศ บริการ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งสำคัญมาก”
การตกแต่งภายในร้านนั้น เราเข้าไปแล้วรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ เหมือนเราอยู่บ้าน แถมพี่เก๋ยังเป็น กันเองอีกด้วย เมื่อเราสอบถามข้อมูลต่าง ๆ พี่เก๋ยินดีที่จะ เล่าให้ฟัง และยังพาเราเดินชมทั่วร้าน การตกแต่งร้านจะเป็นแนวบ้านไม้เก่าผสมโมเดิร์นที่ทุกคนและทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ พี่เก๋บอกว่าไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่เลยใช้ของเดิมที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ มีทั้งเปียโนและตู้เก็บของ ของใช้เก่า ๆ มีการเก็บใส่ตู้ไว้อย่างดี อีกทั้งมีการโชว์ผ้าหงส์ปักลายมังกรของป๊ากับม๊าในวันแต่งงานที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนจีนในสมัยก่อน
บรรยากาศภายในร้านเย็นสบาย มีต้นไม้ฟอกอากาศหลากหลายมุม มีการจัดวางรูปภาพและตกแต่งมุมชั้นวางของอย่างลง ตัว เรียกได้ว่าจัดวางแบบเพอร์เฟคมากค่ะ อีกอย่างร้านมีสองชั้น โต๊ะ ที่นั่งเยอะ ไม่แออัด มากับเพื่อนก็ได้ มากับครอบครัวก็ดีแถมพนักงานยังบริการดีอีกนะคะ

มุมที่ขาดไม่ได้เลยคือมุมถ่ายรูป เดี๋ยวนี้ยุคสมัยใหม่ จะไปที่ไหนก็อยากถ่ายรูปเพื่ออัพเดทลงโซเชียล พูดได้เลยว่า ถ้าเข้าร้านนี้แล้วคุณจะได้รูปถ่ายสวย ๆ เพียบ ทุกมุมสามารถถ่ายรูปได้หลายสิบรูปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งภายนอกร้านและภายในร้านนั่งเฉย ๆ ยังได้รูปสวย ๆ เลยค่ะ เพราะทุกมุมของร้านได้รับการตกแต่งที่ดีมาก

อีกอย่างหนึ่งที่รู้สึกประทับใจและเข้ากับเทรนด์มาก คือแก้วพลาสติกที่ร้านรักอันคอฟฟี่ใช้จะเป็นแก้วที่สามารถ ย่อยสลายเองได้ไม่ใช่แก้วที่ทำจากพลาสติกย่อยยากที่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนาน นอกจากร้านจะชื่อรักอันแล้ว ยังรักโลกอีกด้วย เห็นแบบนี้ไม่มาไม่ได้แล้วนะคะทุกคน เจ้าของร้านใจดีและเอาใจใส่ลูกค้าและสิ่งแวดล้อม กาแฟอร่อยกลมกล่อม บรรยากาศและมุมถ่ายรูปสวย ๆ ไม่ซ้ำใคร ต้องห้ามพลาดเลย!
สำหรับใครที่สนใจจะไปลองจิบกาแฟและชิมขนม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เพจ Rak An Coffee 樂安 https://www.facebook.com/RakAnCoffeeKK/
สถานที่ : ถนนดรุณสำราญ ใกล้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ไปทางสถานีรถไฟขอนแก่น https://goo.gl/maps/bJwkc6gjiBg2FXnv5
เรียบเรียง/ภาพถ่าย : นาราภัทร กองเพชร