ปัจจุบันน้ำดื่มแบบหยอดเหรียญกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความสะอาด และความสะดวกสบาย เนื่องจากตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญมีติดตั้งอยู่ทั่วไป ตามแหล่งชุมชน หอพัก ซึ่งได้รับความนิยมมากเพราะมีราคาถูกเพียงลิตรละ 1 บาท ทั้งนี้ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่ติดตั้งมีทั้งตู้เก่า ตู้ใหม่ แต่คำถามคือ ผู้บริโภคจะแน่ใจได้อย่างไรว่าได้ดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัย เพื่อตอบข้อสงสัยดังกล่าวทีมข่าวรายงานพิเศษได้ตรวจสอบข้อมูลของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมีการสุ่มตรวจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญใน 8 อำเภอ ของจังหวัดมหาสารคาม พบ 70% เจอเชื้ออีโคไล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีเชื้อโรคหลายชนิดปนเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมากอาจส่งผลต่อผู้บริโภค
อาจารย์ดร.สมศักดิ์ อาภาศรีทองสกุล อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วสมัชชาสุขภาพจังหวัด จังหวัดมหาสารคาม พูดคุยกันถึงคุณภาพน้ำดื่มในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อสอบถามไปยังสาธารณสุขจังหวัด ทราบว่าได้มีการสุ่มตรวจสถานที่ผลิตน้ำดื่มเป็นแผนประจำปี แต่ไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มจากตู้กดน้ำ ซึ่งตัวน้ำดื่มจากตู้กดน้ำไม่ได้มีกฎหมายที่เขียนไว้ชัดเจนว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถออกข้อบังคับเพื่อมาดูแลจัดการเรื่องตู้กดน้ำดื่มได้
อ.ดร.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทางคณะเภสัชศาสตร์จึงเสนอทำเรื่องวิจัยคุณภาพน้ำดื่มจากตู้กดน้ำของจังหวัดมหาสารคามเพื่อจะได้รู้ถึงคุณภาพน้ำดื่มในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดมหาสารคาม โดยทางคณะใช้วิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนมาอบรมเรื่องคุณภาพน้ำ การเก็บตัวอย่างน้ำ การตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยใช้ชุดทดสอบอย่างง่าย โดยแบ่งนิสิตออกเป็น 8 กลุ่มเพื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอกันทรวิชัย อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกระบือ อำเภอกุดรัง อำเภอวาปีปทุม อำเภอแกดำ ส่วนอำเภอยางสีสุราชไม่ได้ตรวจ เนื่องจากไม่มีตู้กดน้ำ
อ.ดร.สมศักดิ์ เปิดเผยต่อไปว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบเวลาตรวจจะเลือกตรวจเชื้ออีโคไลเพื่อเป็นตัวแทนหรือตัวบ่งชี้ว่า มีเชื้อโรคหลายชนิดปนเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมากพบว่า 70% มีปัญหาเรื่องเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนปัญหาเรื่องอื่น ๆ มีไม่ถึง 10% อีกทั้งขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำที่นำมาผลิตน้ำดื่มด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อผู้ที่บริโภคเข้าไป โดยส่งผลเสียตั้งแต่ทำให้เกิดอาการท้องเสียธรรมดา ไปจนถึงท้องเสียรุนแรง ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เป็นตรวจสอบเพื่อการแก้ไขปรับปรุง และนำไปพัฒนา แต่ถ้าการตรวจสอบเพื่อจุดมุ่งหมายในทางกฎหมายต้องส่งไปตรวจยังศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์
“ การทำความสะอาดก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของตู้ว่าจะใส่ใจมากน้อยแค่ไหน เพราะตู้กดน้ำจะมีคำแนะนำติดประกาศไว้ข้างตู้เรื่องการทำความสะอาด เรื่องการดูแลตู้ และรวมไปถึงการเปลี่ยนไส้กรอง ซึ่งสิ่งสำคัญคือผู้ใช้บริการต้องพูดคุยกับเจ้าของตู้กดน้ำในเรื่องการดูแล การทำความสะอาดของตู้กดน้ำเพื่อให้ได้มาตรฐาน และควรให้ผู้ใช้บริการเป็นคนสุ่มตรวจ โดยแต่ละหมู่บ้านในอำเภอควรซื้อชุดตรวจมาไว้ตรวจเดือนละครั้ง ซึ่งนี่คือความคาดหวังสูงสุดเพราะถ้าจะให้ทำแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบอาจจะทำไม่ได้ ” อ.ดร.สมศักดิ์ กล่าวส่งท้าย
ทางด้าน นางธัญญชล สาลี ผู้ประกอบการร้านเกรียงไกร วอเตอร์จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตู้กดน้ำภายในร้านของตนมีมาตรฐานใช้ระบบกรองน้ำแบบ 6 ไส้กรอง แต่ละไส้กรองจะทำหน้าที่กรองแตกต่างกันไป ไส้กรองตัวที่ 1 เป็นการกรองตะกอนหยาบไส้ กรองตัวที่ 2 เป็นคาร์บอน ทำหน้าที่ดับกลิ่น ฆ่าเชื้อโลก ไส้กรองตัวที่ 3 เป็นเรซิ่ง ทำหน้าที่ปรับสภาพน้ำปรับค่า Ph ของน้ำและฆ่าเชื้อโรค ไส้กรองตัวที่ 4 เป็นตัวกรองตะกอนหยาบเหมือนกับตัวที่ 1 ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกที่หลุดมาจากไส้กองตัวที่ 1 , 2 และ 3 เพื่อไม่ให้ผ่านไปยังตัวกองตัวที่ห้า ไส้กรองตัวที่ 5 และตัวที่ 6 ราคาค่อนข้างสูง เพราะทำหน้าที่รีดน้ำ และสามารถกรองได้ทุกอย่างแม้กระทั่งยาฆ่าแมลง เรียกกันว่า กรอง Ro (Reverse Osmosis System)
สำหรับการตรวจเช็คความสะอาดของตู้กดน้ำ นางธัญญชล กล่าวว่าเมื่อทางร้านไปติดตั้งจะมีการลงวันที่ไว้ว่าติดตั้งวันไหน ตู้กดน้ำจะมีปุ่มเช็คยอดเงิน จะต้องเปิดเช็คยอดเงินว่าได้จำนวนเท่าไหร่ ถ้าจำนวนเงินที่ลูกค้ากดน้ำถึง 2,000 บาท เจ้าของตู้จะต้องเปิดดูไส้กรองตัวที่ 1 ทันทีว่าดำหรือไม่ ถ้าใส้กรองดำจะต้องเปลี่ยนทันที แต่ถ้าใส้กรองยังไม่ดำก็ไม่ต้องเปลี่ยน เมื่อจำนวนเงินครบ 5,000 บาท จะต้องเช็คไส้กรองตัวที่ 2, 3 และ 4 ไปเรื่อย ๆ ถ้าจำนวนเงินครบ 10,000 บาท ต้องมาเช็คใหม่ เริ่มจากไส้กรองตัวที่1 ไปจนถึงไส้กรองตัวที่ 5 ว่ามีตัวไหนตัน ตัวไหนดำและจะต้องเปลี่ยนออกทันที น้ำที่ผ่านการกรองจะไหลเข้าถังเพื่อเก็บไว้ในสต๊อกเวลาลูกค้ามากดก็จะดึงน้ำในถังออกมาจ่ายให้ พอน้ำออกไปได้ประมาณ 20 ลิตร ระบบไฟฟ้าลูกลอยจะเป็นตัวทำงานดึงน้ำปะปาขึ้นมาเพื่อกรองส่วนน้ำทิ้งที่ออกจากตู้น้ำ ซึ่งสามารถใช้รดน้ำต้นไม้ซักผ้าและล้างมือได้ แต่ไม่สามารถดื่มได้
“ ตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญแต่ละบริษัทจะมีการประกอบตู้ที่แตกต่างกัน ส่วนมาตรฐานนั้นอยู่ที่การวัดค่าของน้ำว่าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่ และสามารถดื่มได้หรือไม่ บางตู้หน้าตาเหมือนกันหมด แต่ภายในประกอบตู้ไม่เหมือนกัน ในการเลือกบริโภคผู้บริโภคต้องสังเกตว่าเวลาเราดื่มน้ำมีกลิ่นมีสีหรือไม่ เพราะน้ำที่สะอาดจะต้องไม่มีรสชาติ ไม่มีกลิ่น และไม่มีสี ” นางธัญญชล กล่าวทิ้งทาย